ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงมีอัตราการหย่าร้างของคู่สามีภรรยากันมากขึ้น
หลังจากที่มีข่าวออกมาจากสำนักข่าวญี่ปุ่นว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานั้น เกิดการหย่าร้างของคู่สามีภรรยามากขึ้นเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบยี่สิบปี ซึ่งทางญี่ปุ่นเองถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และนักจิตวิทยาของประเทศญี่ปุ่นเองได้ออกมากล่าวแลแสดงความเป็นห่วงต่อเรื่องนี้ ซึ่งทางกลุ่มนักจิตวิทยาของประเทศญี่ปุ่นได้ให้เหตุผลในเชิงวิเคราะห์ไว้ว่า การหย่าร้างของชาวญี่ปุ่นที่มีมากขึ้น
แบบไม่น่าเชื่อนั้น มีสาเหตุเกิดจากต้นตอที่เรียกว่า โควิด19 จริงอยู่ที่พวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ติดเชื้อโควิด แต่มาตราการต่างๆที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมารณรงค์ให้คนอยู่กับบ้านและทำงานเป็นแบบลักษณะ Work Form Home จึงทำให้เกิดเวลาการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างคู่รักเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันเกือบสามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์
ซึ่งจากสาเหตุเหล่านี้ทางกลุ่มนักจิตวิทยาได้มองลึกไปว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้ชายญี่ปุ่นที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวและมีสังคมอยู่ข้างนอกในที่ทำงาน เมื่อต้องมานั่งทำงานอยู่ที่บ้านนั้น จึงทำให้สังคมของพวกเค้าหายไปจึงไม่ได้มีการผ่อนคลายเหมือนอย่างแต่ก่อน จึงเกิดความเครียดขึ้นมา และในส่วนของการทำงานนั้นที่ต้องคอยกังวลว่าจะต้องถูกลดเงินเดือนหรือไม่
และจะพอเลี้ยงครอบครัวหรือเปล่านั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของความเครียด รวมไปถึงลักษณะการทำงานที่เปลี่ยนไปที่สถานที่ภายในบ้านของพวกเค้าอาจจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่นักในการทำงาน เพราะส่วนใหญ่แล้วนั้นบ้านของคนญี่ปุ่นจะเป็นเพียงแค่บ้านที่มีไว้กินและนอนหลับพักอาศัยเท่านั้น
ส่วนในด้านของภรรยา หลังจากที่เคยใช้ชีวิตหลังจากแต่งงานเพียงแค่ทำกับข้าวและดูแลงานภายในบ้านและคอยปรนนิบัติเมื่อสามีกลับมาถึงบ้านเพียงแค่นั้น กลับต้องมานั่งรับความเครียดร่วมกับสามี จึงทำให้เริ่มบานปลายและเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่เข้าใจและไม่ลงรอยกันในแต่ละอย่าง หลายๆคู่อาจจะทนได้ แต่ก็มีอีกหลายๆคู่ ที่ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้
และสุดท้ายฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดลง ด้วยสาเหตุเหล่านี้จึงกลายเป็นที่มาของการที่ทั้งคู่เดินเข้าไปที่อำเภอ แต่คราวนี้ต่างกันกับตอนแรกที่ตอนเดินเข้าไปจูงมือยิ้มหวานเข้าไปจดทะเบียนสมรส แต่รอบนี้กลับตอนเดินห่างกันราวกับว่าเว้นระยะห่างเพื่อสังคม
และเดินกันแบบไม่มองหน้า และไปจดทะเบียนหย่า ซึ่งทางนักจิตวิทยาเองก็เริ่มมองว่า วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือหันหน้าเข้าหากันและพูดคุยกันถึงความต้องการของแต่ละฝ่าย เพราะหากตัดสินใจผิดในตอนนี้ เมื่อโควิดหายแล้ว จะมาเสียใจในตอนหลัง
สนับสนุนโดย letou