กรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว
สาวต้องการกัดสีผมให้สวยแต่กลับเป็นแผลเหวอะไรการรับผิดชอบจากร้านเสริมสวย
กรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวของตนเองออกมาเราเหตุการณ์เลวร้ายที่เธอเพิ่งได้ไปเจอมาด้วยตนเองเกี่ยวกับร้านทำผมซึ่งรายละเอียดของเนื้อหาที่เธอเล่านั้นเกิดจากว่าเธอได้ไปทำการติดต่อร้านทำผมแห่งหนึ่งที่อยู่ในซอยรามคำแหง 21โดยแจ้งกับเจ้าของร้านว่าเธอต้องการทำสีผมเปลี่ยนจากสีดำมาเป็นสีเทาซึ่งทางร้านตกลงและคิดค่าเปลี่ยนสีผมเป็นเงิน 1500 บาทหลังจากตกลงกันได้แล้ว หญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้เดินทางไปที่ร้านทำผมตามเวลาที่นัดกับช่างไว้ทันทีซึ่งเมื่อไปถึงทางซึ่งทางผมได้รออยู่แล้ว
โดยมีการเตรียมอุปกรณ์และน้ำยากัดสีผมเอาไว้รอลูกค้าเมื่อไปถึงทาง ช่างทำผมก็ได้ลงมือทำการเกษตรผมให้กับเธอทันทีซึ่งเธอไม่ได้สอบถามถึงรายละเอียดของน้ำยาที่มากัดสีผมให้กับเธอเพราะเธอเห็นว่ารุ่นพี่ที่ทำงานของเธอที่เคยมาทำสีกับร้านแห่งนี้เมื่อทำออกไปแล้วก็ดูสวยถูกใจเธอทำให้เธอไว้วางใจไม่ตรวจสอบรายละเอียดของน้ำยาและหลังจากนั้นไม่นานที่มีการลงน้ำยาเสร็จช่างทำผมได้ให้เธอไปนั่งอบผมส่วนตัวช่างเองก็ไปนั่งคุยโทรศัพท์โดยไม่ได้สนใจเธอเลยปล่อยให้เธอนั่งอบผมอยู่คนเดียวซึ่งหลังจากที่เธออบผมได้ไม่เกินแค่ 5 นาทีเท่านั้น
เธอก็รู้สึกถึงความผิดปกติของหนังศีรษะแถวบริเวณท้ายทอยเปิดเทอมแล้วรู้สึกว่าเธอมีอาการปวดแสบปวดร้อนจนเธอทนไม่ไหวต้องตะโกนเรียกช่างให้มาดูหลังจากนั้นช่างก็รีบพาเธอไปร้านน้ำยาออกแล้วมาดูที่แผลพบว่าบริเวณท้ายทอยมีลักษณะของแผลพุพองขึ้นมาทางช่างเห็นว่าแผนไม่เป็นอะไรมากจึงได้ทำการพาเธอไปใส่ทรีตเม้นที่ผมแล้วยังเอาทรีทเม้นมาใส่ที่แผลพุพองของเธออีกด้วยโดยเมื่อสอบถามว่าทำไมต้องใส่แผลช่างบอกว่าการทาทรีตเม้นลงไปในแผลจะช่วยเป็นการล้างสารพิษออกจากแผลด้วย
หลังจากนั้นช่างได้เรียกเก็บเงินค่าทำผมเธอไป 1000 บาทโดยบอกว่าลดให้ 500 บาทซึ่งเธอก็ยินยอมจ่ายแต่เมื่อกลับไปถึงบ้านแล้วเธอกลับยิ่งปวดแสบปวดร้อนกว่าเดิมและแผลลุกลามมากขึ้นกว่าเดิมจนเธอต้องไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อโทรกลับไปคุยกับทางช่างทำผมคนเดิมก็ปัดความรับผิดชอบ ซึ่งปัจจุบันนี้เธอไม่สามารถติดต่อช่างทำผมได้แล้วและเมื่อไปหาช่างทำผมที่ร้านก็ปรากฏว่าร้านทำผมปิดกิจการไปแล้ว
ขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนโดย next88